วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โค้งผสม (Compound curve )


รูปที่ 1 โค้งผสม

ความหมาย

โค้งที่ประกอบด้วยโค้งวงกลมหลายโค้งมาต่อกัน และจุดศูนย์กลางของโค้งทั้งหมดจะอยู่ด้านเดียวกันของเส้นสัมผัส และเส้นรัศมีของโค้งที่เชื่อมต่อกันจะยาวไม่เท่ากัน

ประโยชน์ของโค้งผสม

1. ใช้ในบริเวณที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขา, เขตพื้นที่ชุมชนที่ไม่สามารถวางแนวทางด้วยโค้งชนิดอื่น เพื่อให้แนวทางมีความเหมาะสมและเขากับสภาพภู มิประเทศ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ยวดยาน

2. ใช้ในบริเวณ Loop ของทางแยกต่างระดับ (Interchange Loops) หรือใช้ในทางขึ้น-ลงทางด่วน (Ramp)

3. ใช้ในเลนเลี้ยว กรณีที่ถนนสายหลักกับถนนสายรองมาตัดกันเนื่องมาจากรถที่อยู่บนถนนสายหลักจะค่อนข้างใช้ความเร็วสูง ดังนั้นเวลาจะเลี้ยวเข้าถนนสายรองการชะลอความเร็วจะต้องใช้ระยะมาก เพื่อป้องกันไม่ให้รถคันหลังที่ตามมาเกิดอุบัติเหตุ

องค์ประกอบต่างๆของโค้งผสม

รูปที่ 2 เรขาคณิตของโค้งผสม

PC = จุดเริ่มต้นโค้ง (Point of Curve)
PT = จุดสุดท้าโค้ง (Point of Tangent)
PI,V = จุดตัดของเส้นสัมผัส (Point of Intersection)
Iหรือ Δ = มุมเห (Angle of Intersection)
PCC จุดต่อของโค้งประกอบทั้งสอง
TL,T1 = เส้นสัมผัสเส้นยาวหรือเส้นสัมผัสของโค้งแรก
TS,T2 = เส้นสัมผัสเส้นสันหรือเส้นสัมผัสของโค้งสอง
PI1,PI2 หรือV1,V2 = PIย่อยของโค้งผสม
I1,I2 หรือ Δ1,Δ2 = มุมเหย่อยของโค้งร่วม 
Lc1,Lc2 = ความยาวโค้งของโค้งร่วม
L1,L2 = ความยาวคอร์ดของโค้งร่วม
L =  ความยาวคอร์ดจาก PCถึงPT
R1 = รัศมีของโค้ง1
R2 = รัศมีของโค้ง2

ประเภทของโค้งผสม

1.โค้งผสมชนิด 2จุดศูนย์กลาง (Two center compound curve)
รูปที่ 3 โค้งผสมชนิดสองจุดศูนย์กลาง
2.โค้งผสมชนิด 3จุดศูนย์กลาง (Three center compound curve)
 
รูปที่ 4 โค้งผสมชนิดสามจุดศูนย์กลาง
3.โค้งผสมชนิด 4 จุดศูนย์กลาง (Fourcenter compound curve)

สูตรที่ใช้ในการคำนวณ (กรณีโค้งผสมสองจุดศูนย์กลาง)

รูปที่ 5 ส่วนประกอบโค้งผสมชนิดสองจุดศูนย์กลาง




การวางโค้งผลม

            วัตถุประสงค์
ปฏิบัติการนี้ มีวัตถุระสงค์เพื่อให้ผู้ศึกษาได้เรียนรู้การวางโค้งในกรณีที่การวางแนวถนนจำเป็นต้องตัดผ่านภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น ภูเขา ป่าทึบ หมู่บ้าน ซึ่งต้องการการวางโค้งและลักษณะของโค้งที่กลมกลืนกับภูมิประเทศมากกว่าการใช้โค้งวงกลมทั่วๆไป

            เครื่องมือ/อุปกรณ์ที่จำเป็น
1. กล้อง Theodolite
2. เทปวัดระยะ
3. หมุดเหล็ก หรือไม้ตะปูค้อน และเศษผ้าสำหรับใช้เป็นสัญลักษณ์ให้มองเห็นโดยสะดวก
4. Pins

ขั้นตอนการดำเนินงาน 
1.กำหนดตำแหน่งของจุดPIในสนาม ตั้งกล้องที่จุดPI กำหนดทิศทางและตำแหน่งของจุดPCอย่างคร่าวๆ ดำเนินการกำหนดจุดPC ในทำนองเดียวกันกับที่เคยทำมาแล้ว เมื่อได้ทิศทางของจุดPCแล้วลากเทปจากกล้องเป็นระยะทางVV1 จะได้ตำแหน่งของจุดV1 วัดระยะต่อมาอีกเท่ากับT1 จะได้ตำแหน่งของจุดPC 
2.เปิดมุมเท่ากับΔ ด้วยกล้องหน้าซ้ายและหน้าขวาไปในทิศทางของจุดPT ลากเทปจากกล้องเป็นระยะทางVV2 จะได้ตำแหน่งของจุดV2 วัดระยะต่อมาอีกเท่ากับT2 จะได้ตำแหน่งของPT 
3.ยกกล้องมาตั้งที่จุดPI1 หมุนกล้องส่องไปยังจุดPC เปิดมุมเท่ากับΔ1 ด้วยกล้องหน้าซ้ายและหน้าขวา วัดระยะทางเท่ากับT1 ตามแนวเล็งกล้อง จะได้ตำแหน่งของจุดPCC ถ้าทำการวางแนวต่อไปจะต้องเข้าหมุดV2พอดี เป็นการตรวจสอบว่าได้วางแนวต่างๆได้ถูกต้องแล้ว   
4.ย้ายกล้องมาตั้งที่จุดPC หมุนกล้องส่องจุดPI ตั้งองศากล้องให้เป็นศูนย์ จากนั้นทำการวางโค้งเหมือนโค้งวงกลมทุกประการจนถึงจุดPCC 
5.ย้ายกล้องไปตั้งที่จุดPCC หมุนกล้องส่องไปที่จุดPI1 ตั้งองศากล้องเท่ากับศูนย์ กระดกกล้องไปทางจุดPI2 
6.ทำการวางโค้งเหมือนการวางโค้งวงกลมทุกประการจนถึงจุดPT 




2 ความคิดเห็น:

  1. มีสูตรที่ใช้ในการคำนวณ (กรณีโค้งผสมสามจุดศูนย์กลางมั้ยคับ)

    ตอบลบ
  2. The best stainless steel knives for beginners!
    Blades available at Amazon.com. These ford edge titanium for sale blades are titanium blade highly durable, and feature nano titanium flat iron a longer blade angle to make them stand out titanium charge from $10.99 · ‎Out of stock titanium tent stove

    ตอบลบ